10 เทรนด์การสรรหาบุคลากรในปี 2567

1. ระบบการสรรหาบุคลากรโดยอัตโนมัติ (Automation in recruitment ) โดยใช้ระบบ AI เข้ามาช่วย ก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการ เช่น การทำงานโดยอัตโนมัติ การปรับปรุงการจับคู่ผู้สมัคร และการประหยัดเวลาและเงิน เทคโนโลยีนี้มอบข้อได้เปรียบที่มีคุณค่าสำหรับผู้สรรหาบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคล ด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่นChat GPT , HireVueหรือ เจ้าหน้าที่สรรหา Avatureสามารถเร่งการเขียนคำโฆษณาและการส่งอีเมล ปรับปรุงกระบวนการจ้างงาน และประเมินทักษะและความเหมาะสมของผู้สมัครสำหรับตำแหน่งงานที่กำหนด  


2. การสรรหาข้อมูลเป็นศูนย์กลาง (Data-Centric Recruiting) การพัฒนาเครื่องมือดิจิทัล จำนวนมากเพื่อ ช่วยในการสรรหาบุคลากร พวกเขาใช้เครื่องมือขั้นสูงเช่น AI และข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อการตัดสินใจที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ตัวชี้วัดเช่น 'เวลาในการจ้าง' 'ผู้สมัครต่อการจ้าง' และ 'อัตราการตอบรับข้อเสนอ' กำลังมีบทบาทสำคัญ แนวทางนี้ช่วยให้บริษัทต่างๆ จ้างงานได้เร็วขึ้น ค้นหาผู้สมัครได้ดีขึ้น และปรับปรุงอัตราการตอบรับข้อเสนอ ทำให้การจ้างงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ 


3. การจ่ายค่าจ้างอย่างโปร่งใส (Pay Transparency) การให้ข้อมูลเรื่องค่าตอบแทน จะเป็นปัจจัยทางเลือกหนึ่ง รวมทั้วสามารถนำมาเป็นแนวปฏิบัติด้านการจ่ายค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและเสมอภาค


4. การเติบโตอย่างต่อเนื่องของการจ้างงานระยะไกล  (Continued Growth of Remote Hiring) รูปแบบการทำงานที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์การทำงานที่ไหนก็ได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากภายในสำนักงาน สู่การทำงานนอกสถานที่ ไม่จำกัดว่าจะต้องทำที่สำนักงานหรือต้องทำงานที่บ้านเท่านั้น ขอเพียงให้ได้ปริมาณงาน (Quantity) และได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ (Quality) เทียบเท่ากับการทำงานที่สำนักงานก็เพียงพอแล้ว


5. การจ้างงานระยะสั้น (Short-term hiring) เพิ่มมากขึ้น
6. การกลับเข้าสู่การทำงานของสำนักงาน (Return to the office) โดยในช่วงโควิดที่ผ่านมาหลายบริาทได้สนับสนุนให้บุคลากรกลับเข้ามาทำงนที่สำนักงานอีกครั้ง


7. การให้ความสำคัญการสุขภาพจิตในการทำงาน (Increased emphasis on mental health) การให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตในที่ทำงานมากขึ้น ด้วยตระหนักถึงผลกระทบที่ความเป็นอยู่ที่ดีทางจิตมีต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน การมีส่วนร่วม และความพึงพอใจในงาน พวกเขาจึงมีส่วนร่วมในโครงการริเริ่มที่ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนด้านสุขภาพจิต ซึ่งรวมถึงการดำเนินโครงการด้านสุขภาพจิต การดูหมิ่นการอภิปรายเรื่องสุขภาพจิต และการให้การเข้าถึงแหล่งข้อมูล เช่น เครื่องมือ การให้คำปรึกษาและสุขภาพจิต การทำงานในรูปแบบ Work-Life Balance


8. Gen Z จะเข้าสู่ตลาดแรงงานที่เป็นวงกว้างขึ้น (Gen Z entering the workforce on a larger scale) ซึ่งในอนาคต Gen Z แนวโน้มการสรรหาบุคลากรที่สำคัญสำหรับปี 2024 และปีต่อ ๆ ไป ด้วยการคาดการณ์ที่ระบุว่าภายในปี 2568 คนรุ่นนี้ประมาณ 30% ของกำลังแรงงาน นายจ้างและผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลกำลังเตรียมพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับลักษณะเฉพาะและความชอบของคนรุ่นนี้ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการสรรหาบุคลากรแบบดิจิทัล เน้นความรับผิดชอบต่อสังคมในวัฒนธรรมองค์กร เสนอโอกาสในการพัฒนาทักษะ และจัดเตรียมการทำงานที่ยืดหยุ่นได้


9. ความเท่าเทียมและไม่มีการแบ่งแยก (Diversity Equity and Inclusion) โดยบริษัทจะสบับสนุนกลุ่มงานบุคคลที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านเชื้อชาติ ภูมิหลัง ศาสนา ความสามารถ เพศ และรสนิยมด้านเพศที่มีความแตกต่างกัน ได้


10.  ประสบการณ์ของผู้สมัคร (Candidate Experience) ซึ่งในอนาคตบริษัทผู้รับสมัครงานจะพิจารณาและให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้สมัครมี่มีความเมาะสมกับทีมทำงานของตน 

อรอนงค์ อุดมวงศ์ /ผู้รวบรวม
บรรณารักษ์ปฏิบัติการ

ที่มา.
10 Recruitment Trends for 2024. (September 23, 2023). Prosperity. https://www.prosperity.ie/salaries-and-information/10-recruitment-trends-for-2024

https://www.freepik.com